Saturday, November 21, 2015

ทำไมกษัตริย์ผู้มิพลจึงร่ำรวยล้นฟ้า

สำนักข่าวดังระดับโลกให้เกียรติ์ในหลวงบอกที่มาของรายได้หลักๆที่ทำให้พระองค์ทรงครองตำแหน่งนักลงทุนอันดับ 1 ในประเทศไทยตลอดกาลและเป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกแต่ให้โอวาทประชาชนมีชีวิตอยู่แค่"พอเพียง"
--------------------------
•เนื้อข่าวสำคัญ•
นายวิลเลียม เมลเลอร์ ( William Mellor) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) กล่าวในหลวงของไทยครองตำแหน่งนักลงทุนอันดับ 1 ของประเทศและพบว่าการครองสิริราชย์สมบัติผ่านทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวสองแสนล้านๆบาท ซึ่งเรื่องนี้นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนใดๆในการทำรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พระเจ้าอยู่หัวฯทรงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดกว่า 30% ในหุ้นเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพนักงานในเครือกว่า 24,000 คน ผลิตสินค้านับตั้งแต่เคมีภัณฑ์ ไปยันวัสดุก่อสร้างสารพัด ส่วนหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของไทย และในหลวงทรงถือหุ้นอยู่ 21% ส่วนเทเวศน์ประกันภัย ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินฯถืออยู่ 87% หากนับหุ้นที่ถือผ่านสำนักงานทรัพย์สินฯแล้ว ก็จะคิดเป็น 7.5%ของมูลค่าตลาดรวมของตลาดหุ้นไทย

นักลงทุนซึ่งตกใจกลัวจากเหตุการณ์รัฐประหารก็กำลังเฝ้าจังหวะที่จะกลับมาช้อนซื้อหุ้นไทยอยู่ แต่ระหว่างนั้นก็จ้องจะเข้าไปลงทุนในหุ้นที่ในหลวงทรงถือหุ้นใหญ่อยู่ด้วย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าพระองค์ทรงอยู่ในพระราชบัลลังก์มาอย่างมั่นคงกว่า 61 ปี แล้ว ก็นับว่าเป็นหุ้นที่ปลอดภัยที่สุดของประเทศไทย รวมทั้งเป็นประเทศเกษตรและอุตสาหกรรมที่มีความน่าเชื่อถือ โดยเป็นทั้งประเทศที่ส่งออกข้าวใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน

ตามตัวเลขเดิมนั้น กษัตริย์มีที่นาที่ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี นครปฐม เพชรบุรี สระบุรี นครนายก อยุธยา ปทุมธานี ตามที่รัฐบาลเปิดเผย 53,683 ไร่ โดยแจกเอกสารสิทธิการเช่าที่ดินแก่ราษฎร 43,143ไร่ ส่วนที่ดินในกรุงเทพฯนั้นกษัตริย์มีที่ดินอยู่เกือบครึ่งเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณศูนย์การค้า เช่น สยามสแควร์ ราชประสงค์ สุขุมวิท สีลม สาธร ท่าพระจันทร์ สองข้างถนนราชดำเนิน นางเลิ้ง หัวลำโพง ราชเทวี ประตูน้ำ สำเพ็ง ราชวงศ์ เยาวราช  สี่พระยา บางรัก วงเวียนใหญ่ คลองเตย ฯลฯ

และที่สำคัญคือเป็นเจ้าของที่ดินอันเป็นที่ตั้งของสนามม้าสองแห่งเนื้อที่หลายร้อยไร่ นับเป็นแหล่งการพนันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ กษัตริย์จะได้ค่าเช่าจากสนามม้า ปีละมหาศาล และที่แน่ๆ ก็คือทรงสนับสนุนการแข่งม้า มีการประทานถ้วยให้ม้าแข่งชนะเลิศ

นอกจากนี้ คนยากจนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ก็ยังอาศัยในที่ดินของ คนกรุงเทพฯอยู่ในสลัมถึง 8 แสนคน เกือบทั้งหมดต้องเช่าที่ดินอยู่ และกว่าครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินของทางราชการและสำนักงานทรัพย์สิน กษัตริย์จึงเป็นเจ้าของที่ดินที่เป็นสลัมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นทรัพย์สินก้อนใหญ่ที่ทำประโยชน์อย่างมหาศาล และไม่มีใครกล้าแตะต้องยุ่งเกี่ยวด้วยโดยเฉพาะการเสนอกฎหมายจำกัดการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในปัจจุบันพระเจ้าอยู่หัวทรงมีที่ดิน 32,500 ไร่ 
ในนั้นกว่า 7,500 ไร่ อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของไทย โดยพื้นที่บางแห่งมีมูลค่าตารางวาละหลายแสนบาท จากการประเมินของบริษัทซีพีริชาร์ดเอลลิส..

No comments:

Post a Comment